fbpx

วางแผนแคมเปญการตลาดใน “เดือนไพรด์” ให้ปัง ไปกับ อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+

โฆษณา-แบนเนอร์-LGBTQ+-อินฟลูเอนเซอร์-กับ-สีรุ้ง-ธง-ภายใต้-สีม่วง-พื้นหลัง

มิถุนายน เป็นที่เดือนที่มีความสำคัญของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) มากที่สุด เพราะคือ “เดือนไพรด์” หรือในภาษาอังกฤษคือ “Pride Month” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์การต่อสู้ ยกระดับความตระหนักถึงกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ปัจจุบันโซเชียลมีเดียรับบทบาทสำคัญในการโปรโมตเดือนไพรด์ สนับสนุนการสร้างการตระหนักรู้ เกี่ยวกับกลุ่ม LGBTQ+ อย่างครอบคลุมผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ มากกว่านั้นโซเชียลมีเดียยังเป็นช่องทางที่เป็นปากเสียง เพื่อการสนับสนุน เรียกร้อง และเพิ่มการสื่อสารในเชิงบวกไปยังกลุ่มผู้ชมจำนวนมากด้วย ที่หลายคนรู้จักในนาม อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ 

ต้นกำเนิดของ “เดือนไพรด์” เริ่มต้นขึ้นจากการจราจลสโตนวอลล์ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1969 โดยขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อการปลดปล่อยเกย์ เพื่อเรียกร้องการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเด็น LGBTQ+ และสิทธิเกย์ แม้ว่าจะผ่านมาแล้ว 50 ปี ประเด็นการเรียกร้องสิทธิของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศยังคงดำเนินอยู่ ผ่านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้มีชื่อเสียง ในประเทศไทยก็มีขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ ด้วยเช่นกัน เกิดจากการรวมตัวกันในระดับองค์กรเช่น สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย (Thai Rainbow Sky Association of Thailand: TGA) กลุ่มอัญชลี และองค์กรบางกอกเรนโบว์( Bangkok Rainbow Organization: BRO) เพื่อการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ผ่านการดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น กิจการทางการศึกษาและการให้บริการ เป็นต้น 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขบวนการเคลื่อนไหว LGBTQ+ ส่งผลสำคัญไปยังภาคส่วนต่างๆของสังคม รวมไปถึงธุรกิจที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก ได้แสดงการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อความเท่าเทียมอย่างครอบคลุมผ่านแคมเปญและความคิดริเริ่มเป็นจำนวนมากและหลากหลาย อย่างไรก็ตาม การดำเนินการแคมเปญ LGBTQ+ ควรตระหนักถึงความอ่อนไหวและเป้าหมายของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศด้วย ดังนั้น แบรนด์จำเป็นต้องทำความเข้าใจความหลากหลายเหล่านี้ ความท้าทาย และต้องสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง ในบทความชิ้นนี้ เราจะนำเสนอประเด็นสำคัญที่แบรนด์จะต้องตระหนักถึงเมื่อจะเริ่มดำเนินการแคมเปญการตลาดในเดือนไพรด์ พร้อมด้วยข้อมูลเชิงลึงที่จะช่วยให้แบรนด์ดำเนินการแคมเปญ LGBTQ+ ได้อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงความท้าทายที่น่ากังวลใจในอนาคต 

ข้อควรระวังการทำแคมเปญการตลาดเดือนไพรด์  

เมื่อดำเนินการทำการตลาด LGBTQ+ สิ่งสำคัญที่แบรนด์จำเป็นต้องให้ความสำคัญในลำดับแรกคือ ความเข้าใจกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้ความเคารพ และยอมรับในตัวของพวกเขา แบรนด์ค้องทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผย ดังนั้น การริเริ่มแคมเปญอาจสร้างความกังวลใจให้แบรนด์ถึงข้อควรระวังต่างๆ เพื่ไม่ให้ติดกับดักสีรุ้งนี้

กับดักสีรุ้ง

กับดักสีรุ้ง (Rainbow Washing) คือ การนำสัญลักษณ์สีรุ้งมาใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในช่วงเดือนไพรด์ ซึ่งสามารถขยายความหมายได้คือ การที่แบรนด์นำสีรุ้งมาใช้ในเชิงพาณิชย์ ในผลิตภัณฑ์ โลโก้ แคมเปญ หรือการเอนเกจเมนต์อื่นๆ จากการใช้งานสีรุ้ง โดยปราศจากการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ที่แท้จริง แต่เน้นไปที่การแข่งขันทางธุรกิจในตลาดมากกว่าการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งยังดูตื่นเขินอีกด้วย 

ประเด็นนี้ ไม่ใช่ประเด็นสีรุ่งบนผืนธง แต่เป็นการปฏิบัติด้วยการใช้สีรุ้งสำหรับการโฆษณา หรือหลายครั้งที่แบรนด์นำสีรุ้งมาใช้เพื่อชนะใจกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยไร้ซึ่งการสนับสนุนต่อชุมชนของพวกเขาอย่างจริงจัง ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ความเข้าใจผิดเกี่ยว LGBTQ+ ที่กลุ่มลูกค้าจะมองว่า ไพรด์ เป็นแค่เพียงโอกาสทางการตลาดมากกว่าความตั้งใจของแบรนด์ในการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ นอกจากนี้ แบรนด์ควรหันมาให้ความสนใจโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากความคิดริเริ่มจากกลุ่ม LGBTQ+ ที่พวกเขามองเห็นในตัวแบรนด์ที่เขาสนใจว่าสามารถปกป้องผลประโยชน์ สิทธิความเท่าเทียม และร่วมงานกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างไร้รอยต่อ แน่นอนว่า แบรนด์ควรหันมาสนใจในประเด็น กับดักสีรุ้ง เพราะหากมองข้ามไป อาจส่งผลเสียและความเสียหายต่อแบรนด์ ที่ทำให้ความเชื่อมั่นของแบรนด์และความเป็นธรรมชาติที่กลุ่มผู้บริโภคเห็นลดลง แย่ที่สุดคือ การถูกแบน คว่ำบาตร จนชื่อเสียงเสียหายย่อยยับในที่สุด 

การเหมารวม

การเหมารวม (Stereotyping) มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระหว่างเดือนไพรด์จากการทำแคมเปญการตลาด ที่เกิดขึ้นจากการสันนิษฐาน การตีความอย่างเหมารวม หรือการทำให้เข้าใจอย่างผิดๆ เกี่ยวกับปัจเจกที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่วางอยู่บนรสนิยมทางเพศและเพศสภาพที่เห็นจากเพียงเปลือกนอก การเหมารวมเช่นนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะมันจะเป็นการทำลาย ประสบการณ์ ตัวตน ที่หลากหลายของพวกเขาโดยปริยาย นอกจากนี้ สิ่งเหล่านี้ ยังส่งผลให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศถูกผลักออก ถูกตีตรา และกระบวนการในการสร้างความเท่าเทียมครอบคลุมและการนำเสนอที่แท้จริงถูกทำให้เสียหาย มากกว่านั้น การเหมารวมนั้น ยังก่อให้เกิดอคติ การเข้าใจผิด และการนำเสนอภาพจำที่คาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ 

ความรู้และความเข้าใจที่ไม่เพียงพอ นำไปสู่การเหมารวมในที่สุดที่สร้างผลกระทบในเชิงลบให้กับแบรนด์ในหลายด้าน ทำลายการสื่อสารที่แบรนด์ต้องการส่ง ทำให้ไร้การตอบรับที่ดีจากลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ ทั้งยังส่งผลต่อการเติบโตในตลาดและรายได้ของแบรนด์ ในอีกทางหนึ่ง การเหมารวมกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอาจทำให้แบรนด์เดินเข้าไปสู่วังวลทางกฎหมายและผลลัพธ์ทางจริยธรรม เช่น การที่แบรนด์นำเสนอเนื้อหาที่ก่อให้เกิดแบ่งแยกหรือความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่นำไปสู่ ข้อขัดแย้งทางกฎหมาย ที่สร้างความเสียหายให้ภาพลักษณ์ความรับผิดชอบต่อสังคมของแบรนด์เอง ดังนั้น แบรนด์จำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการศึกษาในประเด็นผู้มีความหลากหลายทางเพศทั้งตัวตน ประสบการณ์ และพื้นหลังของพวกเขา และพร้อมที่จะผลักดันกลุ่ม LGBTQ+ ให้มีพื้นที่และได้รับการยอมรับจากสังคมโดยรวมมากขึ้น

จากภายในองค์กรสู่ภายนอก

แบรนด์จำนวนมากที่ตระหนักถึงกับดักสีรุ้งและการเหมารวม จะสามารถดำเนินการแคมเปญเดือนไพรด์ได้อย่างสำเร็จลุล่วง อย่างไรก็ตาม หากองค์กรธุรกิจต่างๆ ไม่ได้สร้างการยอมรับและเรียนรู้จากกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศจากภายในองค์กรก่อน เพื่อสร้างความเท่าเทียมและสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศภายนอกองค์กร ดังนั้น แบรนด์หรือธุรกิจควรเริ่มต้นการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ จากภายในองค์กรเป็นลำดับแรกอย่างแท้จริง ไม่ฉาบฉวย และจริงใจ นี่จะเป็นแนวทางที่สร้างการรับรู้ที่มีต่อสาธารณชน ทั้งยัง สร้างโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย ดังนั้น ความล้มเหลวในการทำแคมเปญเดือนไพรด์จะสิ้นสุดลง หากแบรนด์หรือธุรกิจเริ่มสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศจากองค์กรภายในก่อน 

เพื่อการสนับสนุนความเท่าเทียมครอบคลุมนี้ แบรนด์ควรสร้างวัฒนธรรมองค์กรและสิ่งแวดล้อมที่ดีภายในที่ทำงาน ให้มีการเคารพสิทธิและสนับสนุนพนักงานที่มีความหลากหลายทางเพศ สร้างโอกาสในการเติบโตในสายงาน กำหนดนโยบาย เพื่อปกป้องพนักงานจากการถูกแบ่งแยกและเหยียดเพศ ทั้งหมด จะเป็นการสร้างความยอมรับว่าแบรนด์หรือธุรกิจใส่ใจในสิทธิเสรีภาพของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และจะนำมาสู่ความภักดีที่มีต่อองค์กร การสร้างผลงานและความสัมพัรธ์อันดีกับพวกเขา 

การร่วมงานกับ อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+: แนวทางที่ถูกต้องสำหรับแบรนด์ในการทำแคมเปญเดือนไพรด์

การทำแคมเปญเดือนไพรด์ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เพราะโดยพื้นฐานแล้วแคมเปญเดือนไพรด์มีความซับซ้อน แต่ก็สามารถพาแบรนด์ให้โลดแล่น สร้างมูลค่ามหาศาลได้ด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องตระหนักด้วยเช่นกันว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายหากแบรนด์ดำเนินแคมเปญไปอย่างฉาบฉวยไม่จริงใจต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ดังนั้น การร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ จะช่วยให้แบรนด์สร้างกลยุทธ์ในการทำแคมเปญได้อย่างมีอิมแพคมากยิ่งขึ้นในเดือนไพรด์นี้

ใครคือ อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+                 

อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ คือ บุคคลที่ความหลากหลายทางเพศ มีความสามารถในการสร้างอิทธิพลทางความคิดให้กับผู้ชม เป็นผู้นำที่มีวุฒิภาวะในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งยัง สามารถสร้างผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ส่งเสียงเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ แชร์เนื้อหาส่วนตัว สนับสนุนความเท่าเทียม เพื่อให้เกิดการยอมรับ และความเข้าใจในสังคม 

อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ สร้างสรรค์เนื้อหาและแชร์เนื้อหาที่มีคุณค่าบนโลกออนไลน์ การโพสต์เนื้อหาของพวกเขาไม่เพียงแค่จะสร้างความสนุกสนานแต่ยังช่วยให้ความรู้แก่ผู้ชม ลดทอนการเหมารวม และความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน รวมไปถึง การสร้างแรงบรรดาลใจแก่ผู้ชม ให้เห็นถูกความแตกต่างเฉพาะของพวกเขา โดยเนื้อหาที่อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ จัดทำขึ้นมามักเกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ สุขภาพจิต และประเด็นต่างๆที่ทับซ้อนเกี่ยวเนื่องกัน ที่มาพร้อมกับข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์ต่อสังคม 

ทำไมต้องร่วมงานกับ อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+      

เมื่อแบรนด์ต้องการเริ่มแคมเปญการตลาดสำหรับเดือนไพรด์ การร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์  LGBTQ+ หรือกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพราะพวกเขาคือ ตัวแทนของผู้คนที่มาจากเพศสภาพต่างๆ รวมไปถึงรสนิยมทางเพศที่หลากหลาย การร่วมงานกับพวกเขาจะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างโอกาสในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างเป็นธรรมชาติ ยกระดับการส่งสารของแบรนด์ไปยังกลุ่ม LGBTQ+ ได้ถูกต้องชัดเจน จนสามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์ การแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างเป็นรูปธรรม โดยในปัจจุบัน มีอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ จำนวนมากในโซเชียลมีเดีย การพูดหรือการแสดงออกของพวกเขามีพลังขับเคลื่อน เป็นต้นแบบให้กับสังคมในวงกว้าง ในหลากหลายอุตสาหกรรมและรูปแบบทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น ความงาม ไลฟ์สไตล์ และอื่นๆอีกมากมาย 

จะร่วมงานกับ อินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ อย่างไร?

แน่นอนว่าการร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ เป็นประโยชน์ต่อแบรนด์สำหรับแคมเปญการตลาดเดือนไพรด์อย่างมาก แบรนด์สามารถร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ โดยให้พวกเขารับหน้าที่เป็นแบบหรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ในแคมเปญ เพื่อการส่งข้อความไปยังสาธารณชน ว่าแบรนด์ให้คุณค่าและสนับสนุนความหลากหลายทางเพศอย่างครอบคลุม ที่จะช่วยสร้างฐานลูกค้าและความภักดีต่อแบรนด์ในอนาคตด้วย พวกเขายังสามารถชี้แนะแนวทางในการผลิตเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ จากความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญของพวกเขา ที่มีความเกี่ยวข้องและเอนเกจกับผู้ชม ที่สำคัญต้องให้คุณค่าทั้งแบรนด์และกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไปพร้อมกัน 

ในส่วนของเนื้อหาที่เน้นสาระความรู้จากอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ แบรนด์อาจจะต้องให้ความสำคัญไปที่ตัวอินฟลูเอนเซอร์ LGBTQ+ เป็นหลักในฐานะที่พวกเขาคือ ผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้ และประสบการณ์ เพื่อการส่งมอบเนื้อหาที่แสดงให้ถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ วิธีเช่นนี้ จะช่วยให้แบรนด์สามารถวางตำแหน่งแห่งที่ของตนเองในฐานะผู้สนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่เพียงเฉพาะในช่วงเดือนไพรด์เท่านั้นที่แบรนด์จะได้รับ แต่จะเป็นตลอดไป จากภาพลักษณ์เชิงบวกและเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์อีกด้วย 

Influencer House 

Influencer House สนับสนุนความสำคัญของความหลากหลายและเท่าเทียม พวกเราเข้าใจและรับรู้ถึงการนำเสนอในประเด็นผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างครอบคลุม IH สร้างแพลตฟอร์มที่สามารถสนับสนุนภาคส่วนต่างๆในสังคม โดยปราศจากการแบ่งแยกทางภูมิหลัง เชื้อชาติ ชาติพันธุ์วรรณา เพศสภาพ และรสนิยมทางเพศ โดยเป้าหมายของเราคือ การสร้างสังคมชุมชนที่มีความเท่าเทียมครอบคลุมคนทุกกลุ่ม ผ่านสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เน้นการรับฟัง และให้คุณค่า มากกว่านั้น องค์กรของเรายังให้ความสำคัญในการเคารพและเห็นอกเห็นใจ สนับสนุนการศึกษาและการฝึกฝนเพื่อลดทอนความท้าทายทาอคติ หากเราร่วมมือกันสังคมในอนาคตจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และส่งข้อความมาที่ inquiries@influencerhouse.co.th   

Previous Post
อินฟลูเอนเซอร์การศึกษา: ไม่เพียงแค่แชร์ความรู้ แต่ช่วยแบรนด์ได้!
No results found.